ระดับดาวของโรงแรมวัดจากอะไร
16 Apr, 2016 / By
allonehere
ระดับดาวของโรงแรมวัดจากอะไร
บ้านเราเป็นเมืองท่องเที่ยว มีโรงแรมและรีสอร์ทมากมาย เพื่อนๆคงจะเคยได้ยินว่าโรงแรมนั้น 5 ดาว โรงแรมนี้ 4 ดาว โรงแรมนู้นสงสัยไม่มีดาวมั๊ง จิ้งหรีดชัดๆ อะไรประมาณนี้กันมาก่อนนะครับ แล้วทราบหรือเปล่าครับว่าระดับดาวของโรงแรมเขาวัดกันจากอะไร มีหลักเกณฑ์การจัดอย่างไร วันนี้เรามีข้อมูลมาเล่าสู่กันฟังครับ
โรงแรม 5 ดาว : โรงแรมระดับ 5 star 5 ดาว คือระดับที่ดีที่สุด สูงที่สุด มันก็ต้องมีสิ่งอำนวยความสะดวกระดับสุดยอดแน่นอนครับ โดยที่มีข้อกำหนดดังนี้ โรงแรมจะต้องมีการตกแต่งที่โอ่อ่า สวยงาม ทั้งภายนอกและภายใน สิ่งอำนวยความสะดวกเพียบ บริการสุดแสนที่จะประทับใจ อุปกรณ์เครื่องใช้ต่างๆ ได้รับการดูแลรักษาให้อยู่ในสภาพดีพร้อมใช้ ไม่ใช่ว่าใช้ได้บ้างไม่ได้บ้าง อันนั้นเสียอันนี้ชำรุด ห้องพักต้องมีขนาดใหญ่กว่า 30 ตารางเมตร เตียงขนาด 4 ฟุตขึ้นไป ทีวีต้องขนาดไม่น้อยกว่า 20 นิ้ว มีรายการให้ชมไม่น้อยกว่า 12 ช่องรายการ มีตู้เย็นแบบมินิบาร์และอุปกรณ์การติดต่อสื่อสารที่ครบถ้วน ห้องน้ำต้องสะอาด มีขนาดใหญ่ สุขภัณฑ์ต้องสะอาด สวยงาม เครื่องใช้ครบถ้วน พร้อมเครื่องชั่งน้ำหนักและโทรศัพท์พ่วงอยู่ภายใน นอกจากนั้นยังมีห้องชุดให้เลือกใช้บริการถึง 3 แบบ ห้องอาหารก็ต้องมีบริการทั้งอาหารไทยและอาหารนานาชาติ ห้องออกกำลังกายหรือ Fitness ต้องที่มีอุปกรณ์มากกว่า 7 ชนิด มีห้องอบไอน้ำ อ่างจากุสซี่ ห้องนวด มีสระว่ายน้ำ ห้องประชุมใหญ่ที่มีอุปกรณ์ครบถ้วน พร้อมห้องประชุมย่อยอีกไม่น้อยกว่า 4 ห้อง มีระบบการตรวจเช็คความปลอดภัยและอุปกรณ์ที่ทันสมัย… เป็นยังงัยละครับ มาตรบานสูงปรี๊ด แต่เมืองไทยของเราก็มีโรงแรมระดับนี้อยู่ทุกหัวระแหง
โรงแรม 4 ดาว : โรงแรมที่มีดาวระดับรองลงมาคือ 4 ดาวนั้น ต้องมีระบบสาธารณูปโภคต่างๆใกล้เคียงกับโรงแรม 5 ดาว เพียงแต่มีจำนวนและขนาดลดหลั่นกันลงมาเท่านั้นเอง กล่าวคือ ห้องต้องมีขนาด 24 ตารางเมตรขึ้นไป ทีวี 20 นิ้ว รายการ 8 ช่องขึ้นไป มีตู้เย็น มินิบาร์ กาต้มน้ำร้อนพร้อมชา กาแฟ ชุดขัดรองเท้า ถุงซักผ้า เสื้อคลุมอาบน้ำ รองเท้าแตะ นอกจากนี้ต้องมีสบู่ แชมพู ผ้าเช็ดมือ ชุดเข็ม-ด้าย ไดร์เป่าผม ปลั๊กไฟสำหรับโกนหนวดในห้องน้ำ มีห้องออกกำลังกายที่มีอุปกรณ์มากกว่า 5 ชนิด ห้องอบไอน้ำ ห้องนวด สระว่ายน้ำ ศูนย์ธุรกิจหรือ Business Center ห้องประชุมใหญ่ และห้องประชุมย่อยอีกไม่น้อยกว่า 2 ห้อง
โรงแรม 3 ดาว: โรงแรมในระดับ 3 ดาวถือว่าเป็นโรงแรมระดับปานกลาง ซึ่งมีอยู่จำนวนมากที่สุด การจะได้ 3 ดาว โรงแรมต้องมีสิ่งเหล่านี้ครบถ้วน เช่น ห้องพักขนาดไม่เล็กกว่า 18 ตารางเมตร ทีวีขนาด 14 นิ้วขึ้นไป พร้อมรีโมทคอนโทรล (อันนี้กี่ดาวก็มีให้แหละ) ตู้เสื้อผ้า ไฟหัวเตียง เครื่องเขียน อ่างอาบน้ำ ระบบน้ำร้อน-น้ำเย็น (นี่ก็มีทุกดาวมั๊ง) สบู่ หมวกอาบน้ำ แก้ว ผ้าเช็ดหน้า ผ้าเช็ดเท้า ถุงใส่ผ้าอนามัย บริการอื่นๆ ที่มี เช่น รูมเซอร์วิส ร้านอาหารในโรงแรม ห้องประชุมและอุปกรณ์ที่จำเป็น Business Center ห้องน้ำสาธารณะและห้องน้ำคนพิการ เป็นต้น
โรงแรม 2 ดาว: โรงแรมในระดับ 2 ดาว ถือว่าเป็นโรงแรมในระดับเริ่มต้นที่ต้องมีเฟอร์นิเจอร์ตกแต่งภายในโรงแรมและ สิ่งอำนวยความสะดวกแบบทั่วไปไว้บริการ เช่นห้องพัก ที่มีขนาดใหญ่กว่า 14 ตารางเมตร มีตาแมว โซ่คล้องประตู เตียงขนาด 3 ฟุตขึ้นไป กระจกแต่งหน้า ถังขยะ โต๊ะ เก้าอี้ น้ำดื่ม ทีวีขนาด 14 นิ้วขึ้นไป และโทรศัพท์ติดต่อภายใน ห้องน้ำแบบชักโครก มีผ้าเช็ดตัวและกระดาษชำระให้ด้วย
โรงแรม 1 ดาว: โรงแรมในระดับ 1 ดาว เรามักจะเรียกกันเป็นภาษาในวงเหล้าว่า “โรงแรมจิ้งหรีด” คือพี่เค้าจะจัดสิ่งอำนวยความสะดวกในระดับ “กัดฟันให้” กับเรา 555+ ห้องพัก ที่มีขนาดไม่เล็กกว่า 10 ตารางเมตร พร้อมเตียงขนาด 3 ฟุต กระจกแต่งหน้า ถังขยะ โต๊ะ เก้าอี้ ภายห้องน้ำมีผ้าเช็ดตัวและกระดาษชำระไว้บริการด้วย โรงแรมระดับนี้กับเกสต์เฮ้าส์ เป็นอะไรที่แยกกันแทบไม่ออกเลยครับ
จะ เห็นว่าการจัดระดับดาวของโรงแรมนั้นเขาจัดกันที่สิ่งอำนวยความสะดวก อาคารสถานที่ ที่โรงแรมนั้นๆได้จัดเตรียมเอาไว้ต้องรับผู้เข้าพักนั่นเอง แต่สิ่งที่ตามมากับการจัดระดับดาวก็คือ…ราคาที่พักนั่นเองครับ ดาวมากก็แพงหน่อย ดาวน้อยก็ถูกลง ไม่มีดาว ไม่มีแอร์ ก็ร้อยกว่าบาท ไม่ต่างอะไรกับนอนศาลาวัดเลย
ที่มา : www.ความรู้รอบตัว.net/ระดับดาวของโรงแรมวัดจากอะไร/